วิธีการดูแลรักษาแผลเบาหวานที่เท้า - โรคเบาหวาน

อ่าน 272 ครั้ง 25/Sep/23


 

วิธีการดูแลรักษาแผลเบาหวานที่เท้า

1. การรักษาแผลเบื้องต้นด้วยตนเอง

  • ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน เช็ดให้แห้งและใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน ไม่ควรใช้แอลกอฮอลเช็ดทำความสะอาดแผลเพราะแฮลกอฮอลจะไปทำลายเนื้อเยื่อที่แผลได้ แต่สามารถเช็ดทำความสะอาดรอบๆปากแผลได้
  • ใช้ผ้าปิดแผลปิดแผลที่ได้รับการทำความสะอาดแล้ว ไม่ควรใช้พลาสเตอร์ปิดที่แผลโดยตรง
  • หากแผลมีอาการบวมแดงและมีน้ำเหลืองออกมา แม้ว่าจะไม่มีอาการเจ็บปวด ให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว

2. การรักษาโดยแพทย์ โดยพิจารณาตามความรุนแรงของอาการ

  • การทำแผลที่มีหนองและเนื้อตาย โดยแพทย์จะกรีดระบายหนองออกและตัดเนื้อที่ตายออกการใช้ยาปฎิชีวะนะ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วินิฉัยและสั่งยา
  • การหยุดพักบริเวณแผล พยายามเดินเท่าที่จำเป็นหรือแพทย์จะพิจารณาสั่งทำแผ่นรองเท้าหรือรองเท้าที่ทำขึ้นพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักบริเวณแผล
  • การผ่าตัดหลอดเลือด หากแผลได้รับการวินิฉัยแล้วว่ามีสาเหตุมาจากหลอดเลือดตีบแข็ง ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมิณพยาธสภาพของโรคและความพร้อมของผู้ป่วยว่สำควรเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่
  • การผ่าตัดเท้าทิ้ง จะจำเป็นเมื่อไม่สามารถรักษาด้วยวิธีที่กล่าวมาข้างต้นได้ โดยแพทย์ผู้พิจารณาระดับการตัดเท้า

3. การป้องกันการเกิดแผลเบาหวานที่เท้า

  • ล้างเท้าด้วยน้ำสะอาด สบู่ และเช็ดให้แห้งโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้ว ทุกวัน
  • ตัดเล็บไม่ให้สั้นหรือยาวเกินไป และระวังไม่ให้เกิดแผลระหว่างการตัดเล็บ
  • ตรวจสอบทั้งด้าบนเท้าและฝ่าเท้าว่ามีแผลหรือไม่
  • ตรวจง้ามนิ้วเท้าทุกนิ้วว่ามีแผลหรือเชื้อราหรือไม่
  • ตรวจสอบเล็บเท้าว่ามีเล็บขบหรือไม่

4. ทาครีมทั่วบริเวณเท้า เว้นบริเวณง้ามนิ้วเท้าไว้ เท้าของผู้ป่วยเบาหวานมักแห้งและแตกได้ง่าย

5. สวมถุงเท้าอยู่บ้านทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของเท้าและลดการเสียดสีที่เท้า แนะนำให้กลับตะเข็บถุงเท้าออกมาไว้ด้านนอกเพื่อไม่ให้เท้าเสียดสีกับตะเข็บถุงเท้าและเปลี่ยนถุงเท้าใหม่ทุกวัน

6. หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า ทั้งในบ้านและนอกบ้าน

7. หลีกเลี่ยงการเดินบนพื้นที่ร้อน

8. ตรวจสอบรองเท้าทุกครั้งก่อนสวมใส่ ว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในรองเท้าและรองเท้าอยู่ในสภาพที่ดีเหมาะแก่การสวมใส่

9. การเลือกซื้อ รองเท้าเบาหวาน

  • เลือกซื้อรองเท้าที่มีขนาดเหมาะสมกับเท้า ควรเลือกซื้อรองเท้าที่มีขนาดใหญ่กว่าเท้าจริง ครึ่งหรือหนึ่งเบอร์ หรือเมื่อเมื่อสวมรองเท้าแล้วเหลือพื้นที่บริเวณปลายนิ้วเท้ากับรองเท้าประมาณ 1 หัวแม่โป้งมือ
  • ไม่ควรเลือกรองเท้าที่ใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างเท้ากับรองเท้า
  • เลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับรูปเท้า บริเวณด้านหน้าที่ใหญ่ที่สุดของรองเท้าไม่ควรเล็กกว่าส่วนที่ใหญ่ที่สุดของหน้าเท้าเรา
  • ไม่ควรเลือกรองเท้าที่บีบบริเวณหน้าเท้าของเรามากเกินไป
  • บริเวณด้านหลังของรองเท้าควรแข็งเพื่อประคองกระดูกส้นเท้าอยู่ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
  • พื้นรองเท้าไม่ควรแข็งหรือนิ่มเกินไป ทดสอบโดยการงอรองเท้า รองเท้าไม่ควรงอง่ายหรือยากเกินไป
  • เลือกสวมใส่รองเท้าให้เหมาะสมกับกิจกรรม

10. ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น แผ่นรองเท้าเพื่อกระจายน้ำหนักให้ทั่วฝ่าเท้าลดความเสี่ยงในการเกิดแผล หรือใช้รองเท้าที่ทำขึ้นพิเศษให้เหมาะกับรูปเท้าในกรณีที่รูปเท้ามีความผิดปกติ

11. รักษาระดับน้ำในเลือดให้ดีที่สุดและปฎิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด

12. ควบคุมระดับไขมันในเลือกให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

13. งดสูบบุหรี่

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

สาระสุขภาพอื่นๆ