อ่าน 330 ครั้ง 29/Aug/23
1. ปัสสาวะขัดหรือลำบาก เป็นอาการที่บ่งชี้ว่าท่านมีปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะ และอาจเป็นโรคไตด้วย แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
2. ปัสสาวะกลางคืนบ่อยกว่าปกติ ในคนปกติ เมื่อคนเรานอนหลับ 6 - 8 ชั่วโมง มักจะไม่ตื่นขึ้นมาปัสสาวะของคนเราสามารถเก็บปัสสาวะไว้ได้ประมาณ 250 ซีซี หรือเท่ากับน้ำ 1 แก้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะเวลากลางคืน แต่ในผู้ที่มีโรคไตเรื้อรัง ไตจะไม่สามารถลดการสร้างปัสสาวะได้ในตอนกลางคืน จึงมีปัสสาวะออกมาก ดังนั้นในตอนกลางคืนจึงต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะ โดยทั่วไปท่านอาจตื่นขึ้นมาปัสสาวะในตอนกลางคืน 1 - 2 ครั้ง ถ้าท่านดื่มน้ำก่อนนอน หรืออาจจะเป็นนิสัยตั้งแต่เด็ก ถ้ามีอาการเช่นนี้โดยไม่เป็นมาก่อนควรปรึกษาหมอ หรือบางครั้งการปัสสาวะกลางคืนนอกจากเป็นอาการของโรคไตแล้ว อาจพบในผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีอาการบวมจากเหตุอื่นๆ ผู้ที่กินยาขับปัสสาวะ ดังนั้นหากท่านมีอาการดังกล่าวทางที่ดีควรปรึกษาหมอ
3. ปัสสาวะเป็นเลือดสีน้ำล้างเนื้อหรือขุ่นผิดปกติ ปัสสาวะจะมีสีเหลืองใส อาจมีสีเข้มข้นเมื่อดื่มน้ำน้อยและจางลงเมื่อดื่มน้ำมากๆ ถ้ามีปัสสาวะสีแดงคล้ายเลือดหรือสีน้ำล้างเนื้อ บ่งบอกว่าอาจมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ มีนิ่ว ไตอักเสบ หรือเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ หรือโรคเลือดที่ทำให้มีเลือดออกง่าย เป็นต้น
4. อาการบวมรอบตา บวมหน้า บวมเท้า บวมรอบตา บวมที่หน้า อาจสังเกตได้ง่ายเวลาที่ตื่นนอน ส่วนเท้าบวมอาจพบเมื่อเข้าช่วงบ่าย หรือเมื่อมีกิจกรรมในท่ายืนเป็นเวลานานๆ สังเกตได้จากแหวนหรือรองเท้าที่เคยสวมใส่จะคับขึ้น เมื่อใช้นิ้วมือกดที่เท้าหรือหน้าแข้งจะมีรอยบุ๋ม อาการนี้อาจเกิดจากโรคไต นอกจากนี้อาจเกิดจากโรคหัวใจหรือโรคตับก็ได้ อาการที่กล่าวถึงโรคไตเรื้อรังนี้หมายถึง ลักษณะบวมที่หลังเท้าและหน้าแข้ง ถ้าเป็นมากจะกดแล้วเป็นรอยบุ๋ม มีโรคไตหลายโรคที่ผู้ป่วยมาด้วยอาการบวม อย่างไรก็ตาม พบว่าคนที่มีอาการบวมจำนวนมากละเลย เพราะไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ บางท่านอาจไม่อยากตรวจเพราะกลัวว่าหมอจะบอกว่าเป็นโรคไต ดังนั้นบางทีก็ปล่อยเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนเป็นปี หรือไม่ก็มีอาการบวมมากจนทนไม่ไหวต้องมาหาหมอ
5. ปวดหลัง ปวดเอว อาการนี้เป็นอาการที่พบบ่อยมาก แต่ส่วนใหญ่เกิดจากการปวดกล้ามเนื้อจากการทำงาน ซึ่งมักหายได้เองจากการหยุดพักงานหรือกินยาแก้ปวด สำหรับอาการปวดหลัง ปวดเอว ที่เกิดจากโรคไต มักมีสาเหตุมาจากนิ่วอยู่ในไตหรือในท่อไต อาการปวดเป็นผลมาจากการอุดตันท่อไตหรือไตเป็นถุงน้ำโป่งพอง โดยลักษณะการปวดจะเป็นดังนี้ คือ จะปวดที่บั้นเอวหรือชายโครงด้านหลัง และมักมีปวดร้าวไปที่ท้องน้อย ขาอ่อน หรืออวัยวะเพศ อาการปวดมักเป็นข้างใดข้างหนึ่ง สิ่งผิดปกติที่มักพบร่วม คือ ปัสสาวะมีสีน้ำล้างเนื้อ หรือขุ่นขาว อาจมีปัสสาวะกระปริบกระปรอย หรือมีอาการปวดหัวเหน่าร่วมด้วย
6. ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงเป็นอาการสำคัญของโรคไตเรื้อรัง โดยเฉพาะรายที่มีความดันโลหิตสูงมานานและควบคุมไม่ได้ โรคไตที่หมอมักจะนึกถึงคือ โรคไตเรื้อรังและโรคหลอดเลือดแดงไตตีบ เนื่องจากความดันโลหิตสูงโดยตัวมันเองอาจไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย เช่น ปวดหัว มึนงง เป็นต้น ดังนั้นท่านควรได้รับการตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
สัญญาณอันตรายข้างต้นที่กล่าวมา อาจเป็นการบ่งชี้ถึงการทำงานของไตของท่านที่เกิดผิดปกติขึ้นแล้ว ดังนั้นหากเกิดสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบเข้าพบและปรึกษาแพทย์ทันที เพราะโรคไตบางชนิด หากทราบว่าเป็นและรักษาแต่เนิ่นๆ ก็จะสามารถรักษาแก้ไขได้ ในรายที่มีอาการของโรคไตเข้าขั้นรุนแรงแล้ว การรักษาทำได้เพียงชะลอการเสื่อมของไตได้เท่านั้น มีบ่อยครั้งที่ผู้ป่วยมาตรวจรักษาและพบว่าไตหยุดทำงานแล้ว เนื่องเพราะผู้ป่วยมีอาการมานานแล้ว แต่ไม่ยอมมาตรวจรักษา จึงน่าเสียดายเพราะจะต้องรักษาด้วยวิธีการล้างไตเท่านั้น และอาจจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร