เบาหวานกับโรคไต - สาเหตุของโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

อ่าน 375 ครั้ง 05/May/23


 

เบาหวานกับโรคไต

โรคไตจากเบาหวาน นับว่าเป็นสาเหตุของโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่พบได้บ่อยที่สุดทั่วโลก การลดอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคไตจากเบาหวาน ทำได้เพียงการตรวจพบให้ได้ตั้งแต่ระยะแรกของโรค และให้การรักษาเพื่อชะลอการเสื่อมของโรคไตจากเบาหวานเท่านั้น  การตรวจพบในระยะที่ผู้ป่วยมีอาการบวมหรือตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะอย่างชัดเจนแล้ว โรคจะดำเนินไปสู่ระยะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้นด้วย

ระยะของโรคไตจากเบาหวาน

แบ่งออกได้เป็น  5  ระยะ
ระยะที่ 1  มีเลือดกรองผ่านไตมากขึ้น พบได้ตั้งแต่เริ่มแรกที่ให้การวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน
ระยะที่ 2  เริ่มมีการหนาตัวของผนังหลอดเลือดฝอยในไต  เริ่มพบได้หลังวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานแล้ว 2 ปี
ระยะที่ 3  จะเริ่มตรวจพบโปรตีนขนาดน้อยๆ ในปัสสาวะที่เรียกว่า “ไมโครอัลบูมิน” มักเกิดในเวลา 6-15 ปี ภายหลังการวินิจฉัยโรคเบาหวาน จะเริ่มตรวจพบความดันโลหิตสูงอย่างจริงจัง
ระยะที่ 4  สามารถตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะได้โดยวิธีปกติ  ทำให้ปัสสาวะเป็นฟองมากขึ้น  ผู้ป่วยมักมีอาการบวม  ความดันโลหิตสูง  การเสื่อมหน้าที่ของไตเร็วขึ้นอีก
ระยะที่ 5  เป็นระยะที่ไตเสื่อมหน้าที่ลงอย่างมากจนเข้าสู่โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย  ส่วนใหญ่ใช้เวลา 7-10 ปี  หลังเข้าสู่ระยะที่ 4  หากไม่ได้รับการรักษาใดๆ

อาการแสดงโรคไตจากเบาหวาน

หากมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะในปริมาณมากแล้ว (ระยะที่ 4) จะกลายเป็นโรคไตเรื้อรัง  ซึ่งมีอาการและอาการแสดงคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื้อรังทั่วไป ได้แก่

  • มีอาการซีด (โลหิตจาง)
  • บวม
  • ความดันโลหิตสูง
  • อาการคันตามตัว
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ระยะสุดท้ายจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน

อย่างไรก็ดี การเกิดโรคไตจากเบาหวานมักมีสิ่งตรวจพบเพิ่มเติมจากผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังจากสาเหตุอื่น  ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานที่เกิดขึ้นได้ในอวัยวะอื่นร่วมด้วย ได้แก่ อาการชาปลายมือ ปลายเท้า อาการตามัวจากเบาหวานขึ้นตา อาการจากการตีบของหลอดเลือดแดงต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดในสมองตีบ  มีแผลเรื้อรังและขาดเลือดที่เท้าจากหลอดเลือดที่ขาตีบตัน เป็นต้น

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

สาระสุขภาพอื่นๆ